รถในประเทศอังกฤษพวงมาลัยจะอยู่ด้านขวามือ และจะขับรถเลนซ้ายมือ ซึ่งเหมือนกันกับบ้านเรา คนอังกฤษได้รับการยกย่องว่าเป็นประเทศที่ขับรถสุภาพมากที่สุดในโลก พวกเขาจะปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด จะมีมารยาทมากในการใช้รถใช้ถนน และจะขับรถตามอัตราความเร็วที่กำหนดไว้ ตามถนนหนทางจะมีกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจเช็คความเร็ว เพราะถ้าคุณขับรถเกินกว่า speed limit คุณก็จะโดนใบสั่ง โดยหักแต้ม 3 คะแนนและถูกปรับ 60ปอนด์ หรือถ้าคุณถูกหักแต้มคะแนนมากกว่า 3 แต้ม นอกจากถูกปรับแล้วยังต้องได้เข้าอบรมการขับรถด้วย แต่กรณีขับรถประมาทหรือเมาขณะขับโทษรุนแรงมากถึงขั้นยกเลิกใบอนุญาตขับขี่
จะขับรถในอังกฤษได้ต้องมีใบอนุญาตขับขี่ และอายุไม่ต่ำกว่า 17 ปี รถยนต์ที่คุณซื้อมาต้องจดทะเบียนเป็นชื่อของตัวคุณเอง และคนอื่นๆ ญาติหรือเพือนฝูงจะไม่สามารถยืมรถคุณไปขับได้ และรถของคุณต้องมีประกันภัยด้วย ถ้าคุณไม่มีใบขับขี่บริษัทประกันภัยต่างๆจะไม่ยอมรับประกันภัยรถคุณ กรณีสามีภรรยาหรือลูกที่ใช้รถร่วมกัน คนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของรถ ส่วนคนที่มีสิทธิขับรถต้องมีใบขับขี่และต้องซื้อประกันภัยด้วย ถึงแหมว่าคุณมีใบขับขี่แต่ถ้าไม่มีประกันภัยก็ไม่สามารถขับรถบนท้องถนนด้วยเช่นกัน
Roundabout |
กรณีที่คุณมีใบขับขี่จากไทย คุณสามารถขับรถในอังกฤษได้ในหนึ่งปีแรก โดยอนุโลมให้ใช้ใบขับขี่ในประเทศของตน หรือใบขับขี่สากล International Driving Permit ซึ่งถ้าเข้าปีที่สองแล้วต้องยื่นขอใบขับขี่อังกฤษ ซึ่งต้องสอบข้อเขียนและสอบขับรถ ค่าสอนขับรถชั่วโมงละ 20 ปอนด์หรือมากกว่านั้น
คนที่หัดขับรถหรือช่วงรอให้ใบผ่านขับขี่จะติด L-plate รถบางคันติดป้าย L ไว้ที่รถแสดงว่าคุณกำลังหัดขับรถ และคุณจะไม่สามารถขับรถคนเดียวได้ ต้องมีคนที่มีใบขับขี่เกิน 3 ปี นั่งข้างๆคุณ หรือคุณจะใช้รถของครูสอนก็ได้ เมื่อคุณผ่านสอบข้อเขียน ผ่านสอบขับรถแล้วก็จะได้ใบขับขี่และใช้รถบนท้องถนนได้อย่างสบายใจ แต่บางคนพึ่งได้ใบขับขี่ใหม่ยังไม่คุ้นกับการขับคนเดียว คนอาจติด P-plate ซึ่งหมายถึง คุณพึ่งผ่านจากการสอบใบขับขี่ เพื่อเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆได้รู้ว่าคุณมือใหม่หัดขับนะ ถ้าฉันช้าอย่าบีบแตร์ใส่ฉันให้ตกใจ จนทำอะไรไม่ถูก
เจ้าของรถจะต้องชำระ road tax ค่าที่คุณนำรถไปวิ่งบนถนนที่รัฐบาลลงทุนสร้างค่ะ ต้องจ่ายทุกคัน นอกจากนั้นก็ต้องทำประกันภัยอย่างที่กล่าวข้างต้น car insurance ซึ่งจะแตกต่างตามอายุคนขับ มือใหม่หัดขับเสียประกันภัยแพงหน่อย และถ้าคุณเคยได้รับอุบัติเหตุจากการขับขี่ค่าเบี้ยประกันที่จ่ายก็จะลดลง แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าคุณได้รับอุบัติเหตุคุณจะเสียเบี้ยประกันในครั้งต่อไปแพงมาก รถทุกคันต้องมีการตรวจเช็คเหมือนบ้านเรา แต่ที่นี่จะเข้มงวด รถใหม่ก่อน 3 ปีไม่ต้องตรวจเช็ค พอหลัง 3 ปีต้องตรวจเช็คทุกปีเรื่องว่า MOT test (Ministry of Transport)
เมาห้ามขับ เป็นกฎหมายที่บังคับอย่างเข้มงวด จะมีสุ่มจับโดยใช้อิเล็กทรอนิกส์ วัดจากลมหายใจของคนขับ โทษสถานเบาคือยกเลิกใบขับขี่ 18 เดือน แต่ถ้าเมาแล้วขับแล้วทำให้เกิดความเสียหายกับผู้อื่นถึงขั้นยกเลิกใบขับขี่ และคุณต้องรอเวลาอีก 2 ปีถึงจะสอบใบขับขี่อีกทีและต้องเสียประกันภัยแพงกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
เติมน้ำมันเองที่อังกฤษ บ้านนี้เมืองนี้เขาช่วยเหลือตัวเองจริงๆ เคยสงสัยว่าถ้าคนเข้ามาเติมน้ำมันแล้วขับรถหนีออกไปก็ได้สิ แต่ไม่ค่ะ เขามีกล้องวงจรปิดและสามารถจับกุมคนที่ทุจริต คนอังกฤษจะมีวินัยในตัวเองมาก โดยส่วนตัวเองชอบการเติมน้ำมันบ้านเรามากกว่า ที่อังกฤษไม่มีเด็กปั้มนะค่ะ เราต้องออกจากรถมาเติมน้ำมันเอง บางครั้งหน้าหนาวไม่อยากออกจากรถเลย เติมน้ำมันเสร็จก็ต้องเข้าไปจ่ายเงินเอง ไม่มีคนมาเก็บเงินค่าน้ำมันจากที่รถของคุณนะค่ะ
การจอดรถ ต้องจอดเป็นที่เป็นทางที่เขากำหนดคะ ถ้าจอดในที่ห้ามจอดโดนใบสั่งสถานเดียวค่ะ ที่อังกฤษส่วนมากถ้าคุณจะจอดรถต้องเสียค่าจอดรถ ตามเวลาที่กำหนด เช่นถ้าคุณจอด 2 ชั่วโมงแล้วมาช้า ก็จะได้รับใบสั่ง parking ticket ก็จะเสียอีก 30ปอนด์ เพราะฉนั้นต้องดูเวลาจาก parking ticket ด้วยว่าหมดเวลากี่โมง อย่าชอปปิ้งเพลินแล้วกลับมาเสียค่าจอดรถไม่คุ้มคะ หรืออาจเผื่อเวลาไว้เล็กน้อยเพื่อความสบายใจ เอาเงินที่ถูกปรับค่าจอดรถไปซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า สวยๆใส่กันดีกว่า
ถ้าคนอังกฤษมีใบขับขี่แล้ว สามารถขับรถคันอื่นได้ไหมครับ
ReplyDeleteเช่น ขับรถเพื่อ หรื่อ ภรรยา น้องชาย ครับ